การต่อต้านการฟอกเงิน

บริษัทพิจารณาว่าการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนสำหรับการก่อการร้ายเป็นอาชญากรรมที่คุกคามความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยของสังคม เสรีภาพส่วนบุคคล และความปลอดภัยของมนุษยชาติทั้งหมดอย่างร้ายแรง

เรารักษามาตรการและแนวทางปฏิบัติในการต่อต้านการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้ายเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นบนเว็บไซต์และที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปหากทำได้

เมื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ คุณรับรองและรับประกันว่า:

- คุณเป็นเจ้าของโดยชอบธรรมของเงินที่คุณฝากหรือเคยฝากเอาไว้ในบัญชีของคุณบนเว็บไซต์

- เงินที่กล่าวข้างต้นได้มาในลักษณะที่ถูกกฎหมายและไม่ใช่เงินที่ได้จากการก่ออาชญากรรม

- คุณจะไม่ใช้งานเว็บไซต์เพื่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด

- ข้อมูลที่คุณให้กับบริษัทนั้นถูกต้องและเป็นปัจจุบัน

- คุณจะต้องแจ้งให้เราทราบหากคุณเป็นหรือกลายเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเมือง หมายถึง บุคคลที่ดำรงตำแหน่งหรือได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่สาธารณะอันสำคัญในประเทศใดประเทศหนึ่ง เช่น ประมุขแห่งรัฐหรือนักการเมืองอาวุโส คณะรัฐบาลระดับสูง ข้าราชการตุลาการหรือทหาร ผู้บริหารระดับสูงในบริษัทของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองที่สำคัญ"

คุณจะถูกขอให้จัดเตรียมเอกสารที่จะยืนยันข้อมูลที่คุณให้ไว้กับเรา ที่มาของเงินที่คุณฝาก บริษัทอาจสอบถามถึงเอกสารดังกล่าวได้ตลอดเวลา

หากข้อมูลใด ๆ ก็ตามที่คุณส่งมอบให้เราไม่เป็นความจริง คลาดเคลื่อน ชวนให้เข้าใจผิด หรือมิฉะนั้นแล้วไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จะหมายความว่าคุณได้ฝ่าฝืนสัญญา เราขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะยุติบัญชีของคุณทันที โดยเราอาจตัดสินใจใช้มาตรการดำเนินการอื่นใดก็ตาม และ/หรือห้ามไม่ให้คุณสามารถใช้บริการได้อีก

ในการตัดสินใจขอเอกสาร บริษัทจะใช้แนวทางการประเมินตามความเสี่ยง ซึ่งหมายความว่ามีการตรวจสอบกิจกรรมของคุณอย่างต่อเนื่องระหว่างการใช้งานเว็บไซต์ หากพบว่าการกระทำใดก็ตามของคุณน่าสงสัย ตัวอย่างเช่น เงินที่ฝากหรือถอนมีจำนวนเกินที่อนุญาต หรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในพฤติกรรมของคุณ คุณอาจถูกตรวจสอบเพิ่มเติม

พฤติกรรมที่น่าสงสัยดังกล่าวอาจถูกรายงานไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจ

บริษัทอาจทำการตรวจสอบซ้ำเป็นครั้งคราว

หากคุณไม่สามารถผ่านการยืนยันได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม บัญชีของคุณจะถูกระงับจนกว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น ในช่วงระยะเวลานี้ คุณจะไม่สามารถฝากหรือถอนเงินจากเว็บไซต์ได้

ข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับจากคุณในกระบวนการระบุตัวตนจะได้รับการประมวลผลตามกฎหมายที่บังคับใช้

บันทึกเกี่ยวกับมาตรการที่ดำเนินการระหว่างการตรวจสอบ และข้อมูลที่ได้รับระหว่างการตรวจสอบนั้น จะต้องถูกเก็บไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว ข้อมูลดังกล่าวจะกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุชื่อ